วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552

สงครามโลกครั้งที่สอง (World War II)

อยากจะพูดถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อน เพราะ เป็นสงครามที่กินอาณาเขต ครอบคลุม เกือบทั้งโลกจริงๆ


ก่อนอื่นเรามาพูดถึงว่า ทำไมถึงไม่มีใครต้าน เยอรมัน ได้ นั่นเป็นเพราะ แสนยานุภาพของกองทัพนาซีเยอรมัน เป็นแสนยานุภาพที่เข้มแข็งที่สุดแสนยานุภาพหนึ่งในโลกขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นกำลังทหารที่มีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำสูง หรือกำลังยานเกราะต่างๆ ที่ได้รับออกแบบ ให้เป็นเครื่องจักรสงครามที่ทรงประสิทธิภาพ !!


เริ่มด้วย

แสนยานุภาพที่ทรง พลัง ของ นาซี เยอรมัน

กองทัพบก
หน่วยยานเกราะ

รถถัง Panzer ทุกรุ่น
สมรรถนะ
น้ำหนักรถ 44.8 ตัน
ความเร็ว 28 ไมล์ต่อ ช.ม. หรือ 45 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง
ระยะปฏิบัติการ 110 ไมล์ หรือ 176 กิโลเมตร
ปืนประจำรถ 75 มิลลิเมตร แบบ KWK 42L/70 และปืนกล 7.92 มิลลิเมตร 2 กระบอกพลประจำรถ 5 นาย


เป็นรถถังเกราะหนักที่ดีที่สุดในยุคสมัยนั้น คงยากที่จะมีอะไรต้นทาน รถถัง Panzer ได้ เกราะที่หนา และ อาวุธที่ทรงพลัง (ท่าน สามารถทดลองได้ ใน Hero of Company) มันเป่าทุกอย่างกระจุยได้ในพริบตา


รถถัง TIGER

สมรรถนะ
น้ำหนัก 68.6 ตัน
ความเร็ว 24 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 38 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระยะปฏิบัติการ 62 ไมล์ หรือ 99 กิโลเมตร
ปืนประจำรถ 88 มิลลิเมตร และปืนกล 7.92 มิลลิเมตร สองกระบอกค
วามหนาของเกราะสูงสุด 110 มิลลิเมตร
พลประจำรถ 5 นาย
อีกขั้น ของรถถังเกราะหนัก มันเป็นรถถังที่แกร่งกว่า Panzer ต้องใช้คน บังคับการ ถึง 5 นาย(ในความคิดผมมันคือรถถังที่ดีที่สุด เรียกว่าขั้นเทพเลยก็ได้ ^^) รถถัง TIGER ได้สร้างตำนานการต่อสู้ทางรถถังให้กองทัพอังกฤษได้ประจักษ์ ปืนใหญ่ประจำรถขนาด 88 มิลลิเมตร และเกราะของรถที่หนาถึง 110 มิลลิเมตร ทำให้รถถังของฝ่ายสัมพันธมิตร ไม่สามารถทำอะไรรถถัง TIGER ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรบในทะเลทรายแอฟริกา ในปี 1943 จิ้งจอกทะเลทราย นายพลเออร์วิน รอมเมล ของเยอรมันได้ใช้รถถัง TIGER ที่มีจำนวนเพียงน้อยนิดเข้าต่อสู้กับฝ่ายอังกฤษ แต่เนื่องโดยค่าใช้จ่ายที่แพง เยรมัน จึง ผลิต tiger ออกมาได้เพียง 1,350 คัน


ปืนใหญ่ต่อสู้ 88 มม.
สมรรถนะ
สามารถยิงเป้าหมายทางพื้นดินได้ไกลถึงกว่า 10 กิโลเมตร
เป้าหมายทางอากาศ ได้ 14,680 เมตร หรือกว่า 14 กิโลเมตร
มีความยาว 25 ฟุต
อัตราการยิงเฉลี่ย 8 นัด ต่อนาที
ใช้พลประจำปืน 6 คน

ปืนใหญ่ที่ลือชื่อมากที่สุดของเยอรมัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง คือ ปืนใหญ่ขนาด 88 มม. ปืนใหญ่นี้มีอานุภาพรุนแรงมาก สามารถทำลายยานเกราะแทบทุกชนิดได้ นอกจากนี้ยังเป็นปืนที่มีความแม่นยำสูง สามารถยิงเป้าหมายทางพื้นดินได้ไกลถึงกว่า 10 กิโลเมตร คือประมาณ 10,600 เมตร และเป้าหมายทางอากาศ ได้ 14,680 เมตร หรือกว่า 14 กิโลเมตร (ถ่านเล่น นาซี ใน Hero of Company อัพ ป้องกัน ท่านก็จะเห็นว่ามัน มีอานุภาพ ขนาดไหน)


กองทัพเรือ(Kriegsmarine)

เรือประจัญบาน บิสมาร์ค (Bismarch Class - BattleShip )
สมรรถนะ
ระวางขับน้ำ 50153 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 15 นิ้ว 8 กระบอก
เป็นเรือประจัญบานที่โด่งดังและหน้ากลัวที่สุดในสงครามโลกครั้งที่2 ด้วยการสำแดงพลัง จมเรือลาดตะเวณประจัญบาน "ฮู้ด" ของอังกฤษ ด้วยการยิงเพียงไม่กี่ครั้ง เรือ ฮู้ด ของอังกฤษก็ ถูก จมลงใต้ทะเล ในยุทธนาวีที่ช่องแคบเดนมาร์ก หลังเหตุการณ์นี้ อังกฤษจัดสินใจออกตามล่าบิสมาร์ค ทั้งทางเรือ และทางอากาศ แล้วก็สามารถจม เรือบิสมาร์ค ได้ในที่สุด (อย่างเทพ)



กองทัพอากาศ(Luftwaffe)

เครื่องบินขับไล่แมสเซอร์สมิท บี เอฟ 109(Messerschmitt Bf 109)
สมรรถนะ
เครื่องยนต์ขนาด 1,175 แรงม้า
ทำความเร็วได้สูงสุด 560 กม. ต่อ ชม. ที่ระดับความสูง 4,440 เมตร
อัตราการไต่ 1,000 เมตรต่อนาที
มีระยะทำการ 650 กม.
ติดอาวุธหลักคือ ปืนใหญ่อากาศขนาด 20 มม. สองกระบอกที่ปีก แต่ละกระบอกมีกระสุน 60 นัด
นอกจากนี้ยังมีปืนกลขนาด 7.92 มม. อีกสองกระบอกที่จมูกเครื่องบินเหนือเครื่องยนต์ พร้อมกระสุนกระบอกละ 1,000 นัด
สุดยอดเครื่องบินขับไล่ ของเยอรมัน เป็นเครื่องบินขับไล่หนึ่งเครื่องยนต์ ขึ้นบินครั้งแรกเมื่อปี 1935 และเมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง เปิดฉากขึ้น มันได้กลายเป็นเครื่องบินขับไล่หลักของกองทัพอากาศเยอรมัน และอาจกล่าวได้ว่า เครื่องบินรุ่นนี้ เป็นเครื่องบินรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง แม้ว่าจะติดอาวุธด้อยกว่าเครื่องบินของพันธมิตร เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องบินสปิตไฟร์ของอังกฤษ ( ถ้า เครื่องบินรุ่นนี้สามารถอยู่ บนน่านฟ้า อังกฤษ ได้นานๆ อังกฤษคงตกเป็น ของเยอรมันไปแล้ว)


เครื่องบินทิ้งระเบิด Ju-88
นี่เป็นเครื่องบินที่เรียกได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังของกองทัพอากาศเยอรมันเลยทีเดียว เพราะมันเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใช้งานได้มากมาย ทั้งทิ้งระเบิด ตรวจการณ์ ขับไล่ทั้งกลางวันและกลางคืน โจมตีภาคพื้นดิน ลำเลียงพล ลาดตระเวณและเป็นเครื่องบินทิ้งตอร์ปิโดด้วย เมื่อรสงครามระเบิดขึ้น เจยู88 ได้เป็นเครื่องบินหลักในการเข้าโจมตีอังกฤษ โดยในวันที่16ตุลาคมปี1939 ได้โจมตีฐานทัพเรืออังกฤษที่ โรซิธ สร้างความเสียหายให้กับเรือ3ลำ และต่อมายังได้โจมตีฐานทัพเรือที่สปาการ์ โฟลว์ อีกด้วย ในการบุกฝรั่งเศสและประเทศต่ำ เจยู88 ได้เข้าร่วมการรบอีกเช่นกัน ในการรบเหนือเกาะอังกฤษ เจยู88 เป็นหนึ่งในเครื่องบินทิ้งระเบิดที่เข้าโจมตีอังกฤษและสามารถทำลายเมืองในอังกฤษได้มากมาย แต่ อัตราการสูญเสียก็มากเช่นเดียวกันเพราะขาดเครื่องบินขับไล่คุ้มกัน เจยู88 ใช้งานได้หลากหลาย เมื่อแนวรบเยอรมันชยายยาวออกไปและการโจมตีทางอากาศต่อเยอรมันรุนแรงขึ้น เครื่องบินรุ่นนี้ก็ได้ถูกปรับ ปรุงใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งขับไล่กลางคืน โจมตีภาคพื้นดิน และรบรับใช้กองทัพเยอรมันจนสิ้นสุดสงคราม


แสนยานุภาพที่ทรง จักรวรรดิญี่ปุ่น

กองทัพเรือ

เรือประจัญบานยามาโต้ (yamato)
สมรรถนะ
ระวางขับน้ำ 72800 ตัน อาวุธปืนหลักขนาดปากลำกล้อง 460 มิลลิเมตร (18.นิ้ว) 9 กระบอก
กำลังขับเคลื่อน 150,000 shp (110 MW)
ความเร็ว 27 นอตส์ (50 ก.ม./ช.ม.)
รัศมีทำการ 11,500 ก.ม. at 16 น๊อตส์ (30 ก.ม./ชม.)
กำลังพลประจำการ:2,750 นาย

เรือประจัญบานที่ใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น และเรือลำนี้มีปืนใหญ่ขนาดปากลำกล้อง 460 มิลลิเมตร (18.นิ้ว) ซึ่งเป็นปืนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งบนเรือประจัญบาน เรือรบลำนี้มีความหมายอันยิ่งใหญ่สำหรับจักรวรรดิญี่ปุ่นในฐานะสัญลักษณ์ด้านนาวิกานุภาพของชาติ (คำว่า "ยามาโตะ" บางครั้งก็หมายถึงประเทศญี่ปุ่น) และถูกจมโดยเรือบรรทุกเครื่องบินสัญชาติอเมริกันในช่วงวันท้ายๆ ของสงครามโลกครั้งที่2 ในปฏิบัติการอัตวินิบาตกรรมเท็นกุ ซึ่งการจมของเรือรบยามาโตะ บางครั้งถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นด้วยที่สุด (ท่านสามารถเห็น ความน่ากลัวของมันได้ หากท่านเล่นเกม online navyfield มันสามารถจมเรือเราได้ในพริบตา เท่ด้วยใหญ่มากเทียบกับเรืออื่นๆ)


กองทัพอากาศ

เครื่องซีโร่ misubishi A6M
สมรรถนะ
เครื่องซีโร่ misubishi A6M พระเอกของ สมรภูมิเพิร์ลฮาร์เบอร์ มีขนาดเล็ก ทำให้มีความคล่องตัวทางการบินสูงมาก ปืน7.7มม.2 กระบอกและปืน20 มม. 2กระบอก(กระบอกละ100นัด) ข้อเสียของ ซีโร่คือขนาดที่เล็ก ทำให้ไม่มีน้ำหนักเพียงพอสำหรับติดตั้งเกราะสำหรับถังเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์ทำให้ง่ายแก่การทำลายหากโดยยิงเพียงไม่กี่นัด





แสนยานุภาพ ของ สหราชอาณาจักร(UK)

กองทัพเรือ
เรือลาดตะเวณประจัญบาน ฮู้ด(Hood Class - Battle Cruiser)

สมรรถนะ
ระวางขับน้ำ 42500 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 15 นิ้ว 8 กระบอก
เรือที่เป็นที่ความภาคภูมิใจของกองทัพเรืออังกฤษมันสร้างความกลัวให้แก่ข้าศึกในปี 1930-1940 แต่พอสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดขึ้นมันได้ลง สู่สนามรบครั้งแรกกับเรือ BISMARCK ของนาซีจากการยิงจากBISMARCK เพียง 5 ตับก็ทำให้เรือ HOOD จมลงในเวลาประมาณ 8 นาที
(พระเอก ww1 แต่ ww2 กับจมลงอย่างง่ายดาย)


QUEEN ELIZABETH CLASS - BATTLESHIP
สมรรถนะ
ระวางขับน้ำ 36450 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 15 นิ้ว 8 กระบอก
เรือที่ฝ่ายอังกฤษสร้างขึ้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 มันมีขนาดใหญ่มากและทำให้ข้าศึกไม่กล้าออกมาสู้ด้วยและได้ปรับปรุงและใช้ ในสงครามโลกครั้งที่2