วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2552

เดินสายเที่ยว นำร่องสู่ บ้านกรูด

ไปๆ เราจะไปเที่ยว ทะเล

เช้าตรู่ ของวันที่ 13 พ.ค. 51
เวลาปรมาณตี
ลงไปหาไอ้อ้วนที่ห้อง ไอ้คุณท่านอ๋องยังจัดของไม่เสร็จ
ส่วนอีกคน ท่านแนล เพิ่งอาบน้ำ นัดตี 5 ตื่นตี 5 เยี่ยม










ไอ้นี่ ชื่อ เปา ไม่ได้ไป 555+ (เป็นเกย์)









เวลาประมาณ 6 โมงถึง ท่ารถ สายใต้ใหม่
จองตั๋วเสร็จแล้ว แชะ สัก 1 รูป










นั่งรถอันแสนยาวนาน หลับดีกว่า..

ถึงเพชรบุรี ประมาณ 8 โมงครึ่ง
รถวิ่งประมาณ 2 ชั่วโมง
ถึงท่ารถก็หาอะไรกินก่อน ร้าน เบอเกอรี่ที่ท่ารถ
อร่อยดี ครับ ชื่อ ร้าน จิรพัน นั่งกินไป รอไป
รอไอ้คุณออม คนขับรถมารับ
มันมาถึง ก็ไปนี่ก่อนเลย

วังบ้านปืน










ไอ้ คน ซ้าย คนขับรถ ชื่อ ออม



















หลังจาเดินเที่ยวอยู่สักพัก
เกือบ 10 โมงล่ะ ไปบ้านไอ้อออม แล้วค่อยไปต่อ
ไปเอาของน่ะ ชุดกับ ปืน เราจะไป เล่น BBGun
กัน go go (ของที่ใส่ของไอ้ออมทั้งนั้น บ่งบอกถึงความบ้า)


















แต่งตัวซะดี แต่ฝีมือนั่นมีไม่ 555+(พรุน)









ไอ้คนขับเปลี่ยนเป็น โจรใต้ไปแล้ว









4 ทหารเสือ!!



















หลัง จาเล่น เสร็จ เกือบจะ บ่าย 3 แล้ว
ที่จริง เรานัดกันไว้ว่าจะขึ้นเขา พนมรุ้ง
แต่ฝนมันทำท่าจะ ตก ก็เลย say ลาดีกว่า
เปลี่ยนเป้าหมาย ไป go to ชะอำ

จากเพชรบุรีไปชะอำใช้เวลาประมาณ
50 นาที

ถึงชะอำก็หาห้องพักซะก่อน
ไม่แพงมาก 600 เอง



















แชะภาพซะหน่อย

ด้วยความเหนื่อย
ขอนอนดีกว่า ...









ยามเช้าของหาดชะอำ
เราต้องรีบตื่นเพราะเราต้องไปหัวหินต่อ
เดี๋ยวไม่ได้เดินตลาดกลางคืน









ความเป็นจริงกว่าจะตื่น เกือบ
10 โมง แชะภาพซะหน่อยน่อ
ก่อนออกเดินทาง



















เรานั่งรถเมร์แดง มา ใช้เวลา
จากชะอำมาหัวหิน ประมาณ
30 นาที
หลังจากมาถึงเราก็ต้องหาที่
พักซะก่อน
เดินไปเดินมาได้ โรงแรมอะไรไม่รู้
จำไม่ได้ 900 แถมอาหาร ok
ที่นี่ก็ได้



















ได้ที่พักแล้วก็ไปหาอะไรกินกัน
มาหินหิน ทั้งที มื้อแรกก็ pizza เหอๆ
(มาทำม่ายยย)
กินเสร็จก็กลับห้อง
ถึงห้องนอนก็หลับครับพี่น้อง...
กว่าจะตื่นมาก็เย็นล่ะ



















เดินชมชายหาดหัวหินสักหน่อยน่อ









เป้าหมายต่อไปก็ โรงเรียนเก่าผม
ผม กับ ได้อ๋อง เรียนที่นี่ตอน
ประถม รำลึกๆๆ

โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย






















what??



















ล่องไปล่องมาซะ ทั่วโรงเรียน
ดูหมดล่ะ เป้าหมาย ต่อไป ก็
ตลาดกลางคืน หัวหิน เอ้า ลุยๆ

กว่าจะถึงตลาด เล่นเอาเหนื่อย
เราก็เดินๆ หาอะไรกิน
ซื้อของเล่น เรื่อยเปื่อย



















ไอ้อ้วนนี่โดนหรอกฟัน เสื้อมาตัว 1









กว่าจะกลับถึงห้องเกือบ 5 ทุ่ม
ถงปั๊บ หลับปุ๊บ

ตื่นเช้ามาต้องรีบไปกิน ร้านทีเด็ด
ชื่อ ร้านไก่ เวลาเปิด
10 โมง - บ่าย 2 (รีบปิดไปไหน)
คนแน่นร้านมาก ต้องนั่งรอกันทีเดียว
มาร้านนี้มีแต่ไก่ สั่งเลย อร่อยทุกอย่าง
แต่ทีเด็ด ไก่ยัดใส่ อร่อยดี

หลังกินเสร็จ ก็นัด กับเพื่อนๆ
ให้มา รับที่หัวหิน ประมาณ
บ่ายๆ นั่งรถตู้ ไปบ่านกรูด ต่อ

กว่าจะถึงก็เกือบเย็น
เข้าบ้านพักเสร็จ
ทำกิจกรรมเป้าหมายเลย










ขาไพ่ one (หัวล้าน)









ขาไพ่ two (ขี้เมา)










พวกเราพักที่ รีสอท 3 วันหลังจาก
นั้นก็กลับบ้าน กว่าจะถึงบ้าน
สุดเหนื่อย แต่มันส์มั่ก

จบล่ะทริปนี้ หมดปา 4พัน ได้


วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552

เรื่อง วงดนตรีจำเป็นของผม

แรกเริ่มคือไอ้ครีม (เพื่อนผม) ไอ้ครีมกระสันอยากเล่นดนตรี (ได้รับพลพ่วง จาก พี่ตูนบอดีสแสม) มันเริ่มก่อนเลย มันมาชวนผม ผมก็บอกมันแค่นี้ชิวิตเมิงยังไม่พออีกเหรอ จะให้มันเละกว่านี้อีกเหรอ ห้ามปรามยังไงก็ไม่ฟัง ชวนแล้วชวนเล่า ผมจึงตกลงปรงใจไปตายพร้อมกับมัน ที่แสดงฝีมือ ก็มีแล้ว งานวันเกิดโรงเรียน ที่ๆ เด็ก งานที่เด็กๆจะชอบมาก เพราะมันไม่ต้องเรียน ข่าวก็ฟรี กลางคือยังไอ้แดนสืกระจายอีก กลับมาที่ผม ผมก็บอกกุเล่นอะไรไม่เป็นเลย มันบอกเดี๋ยวไปเรียนกันแปบบเดียวก็เป็น (เล่นดนตรีไม่ใช่ทอดไข่เจียว แปบเดียวก็เป็น) ไอ้ครีมเสนอก่อนเลยกุตีกลอง ผมเลยจำยอมเล่นเบส แต่มันเล่นกัน 2 คนไม่ได้นี่ซิ จึงไปตามไอ้โอม เด็กห้อง 4 เพื่อนผมสมัยม.ต้นมาเล่นด้วยมันบอกมันก็เล่นกีต้าเป็นนิดหน่อย นักร้องล่ะหาจากไหน ไอ้เอ คือคนที่เสียงดีที่สุดในห้องผม ผมจึงชวนได้เอ มาเป็นนักร้องนำ กว่าเราจะเริ่มเรียนดนตรีก็ ประมาณ ม.5 กลางๆเทอมเพื่อให้ทันงานวันเกิดโรงเรียนตอนเดือน ธันวา

เมื่อการรวมตัวกันครบทุกคนก็ พวกเราก็ไปซ้อมกัน เมื่อใกล้ถึงวันเกิดโรงเรียน เราต้องส่งเพลง และชื่อวง เราตั้งชื่อวง ว่า เบลอๆ ส่วนเพลงเราต้องส่งเพลงช้ากับเพลง เร็วและเพลงที่ถนัด 1 เพลง รวมเป็นสามเพลงเพลงเร็วเราเลือก จีจ๊ะ ของ sillyfool เพลงถนัดก็เพลง ซอมบี้ เราได้นักร้องเสียงดีฝ่ายหญิงอันดับ 1 ของห้องมาชื่อ เก้าดีกรี แชมเพลงอะครูสติก ปีนี้ พามาจมกับเรา เมื่อวันงานเริ่มวงเราได้พอดีกับช่วงคนเยอะพอดี เราเปิดด้วยเพลงช้า แล้วต่อด้วย ซอมบี้ด้วยเสียงของ เก้า ก็เรียกคนดูใด้พอสมควร แต่ความมันส์ไม่ได้อยุ่ตรงนั้น ผมเล่นเบสอยุ่ข้างหน้า เล่นไปเล่นมา มันเหมือนเสียงกลองหายไปจังหวะ หนึ่ง จึงหันไปดู สิ่งที่เห็นคือ ไอ้ครีมตีฉาบกระเด็นหลุดไป ไอ้เอ นักร้อง ชาย เห็นท่าไม่ดี วิ่งมาเก็บ ฉาบกลับไปกอดไว้ ไอ้ครีมตะโกนรียน เมิงจะเอาไปถือทำเชี้ยอะไร เอามาใส่ดิสัส ความฮาเริ่มบังเกิด แต่คนทั่วไปไม่หน้าจะรู้หรอก เพราะ เสียงนักร้อมันกลบรัศมี หลังจาก ซอบบี้จบ ต่อด้วยความมันระดับ sillyfool ได้เอออกมร้องอย่างเมามันพาคนดูกระโดดตาม ความมันส์จึงบังเกิด แต่แล้วหลังเล่นจบมีการประกาศวงที่เข้ารอบ เราก็ตกรอบไป เหอๆ หลังจากนั้นเราก็เลิกเล่นไปสัก

แต่พอวันเกิดโรงเรียนตอน ม.6 ไอ้ครีมก็มาชวนเล่นอีกพวกผมลงกิจกรรมที่จัดในงานวันเกิดโรงเรียนแทบทุกอย่างประกวดดนตรี มี ผม เอ ครีม โอม ฟุตซอลเราส่ง 2 ทีมทีม a ทีม bทีม a เราทุกคนลงหมด แต่แล้วทีม a กลับตกรอบ 2 แต่ทีม b กับไปถึงเกือบรอบชิง นัดสุดท้ายต้องแข่งกับคนจัด ห้อง 13 เราขึ้นนำก่อนแต่ก็โดนโกงเรื่องเวลา โดนลูกโทษ ก็แพ้ไป ส่วนสตรีสบาส บาส3 คน เราได้ที่ 2 ทุกทีมชื่อ เบลอๆ หมด ส่วนการประกวดดนตรีปีนี้ เราเลือก เพลง ทาส ของ paradox ความรักทำให้คนตาบอดของ bodyslam และก็ เพลงอีกเพลง ปีนี้ไม่ค่อยจะมีเพลงมันส์ซักเท่าไรเลยจบแบบนืดๆ แต่ก็ยังมีคนจำได้ ว่าวงเบลอๆ คือวงที่เล่นมันๆมั่ว ๆ แล้วก็มีไอ้แว่น ออกมาเต้น เมื่อปีที่แล้ว ...

เรื่อง วิกฤตการขึ้นเขาโดดเรียน

วันนี้หลังจากพักเที่ยงทุกคนก็รวมตัวกัน ข้อเสนอวันนี้เป็นเล่นเกม ทุกคนจึงหาทางออก ผมบอกเดี๋ยวออกตามไป ขออยู่ในโรงเรียนแปบ 1 เราจึงแบ่งเป็น 2 สายเพราะวันนี้เราจอดรถคนล่ะที่กัน ไอ้ ชาติ ไอ้เอก ไอ้โสรสมันออกทางประตูข้างโรงเรียน ประตูข้างโรงเรียนเป็นที่อันตรายอันดับต้น ๆ เพราะต้องใช้ความเร็วแล้วความกล้ามากถ้าไม่จำเป็นจะไม่ใช้ทางนี้กัน ไอ้ครีม ไอ้ เอ ไอ้โด่งมันออกทางเก่าขึ้นเขาเหมือนเดิม

เมื่อไปถึงบนเขาทุกคนจะนั่งพักซักพัก เพราะมันต้องใช้กำลังในการปีน มากเมื่อขึ้นไป ดันเจออีกแก้ง 1 เด็กห้อง 8 ขึ้นมาก่อนเราแปบหนึ่งกำลังนั่งพักอยู่ ไอ้โด่งบอกเดี๋ยวมันเดินลงไปก่อนให้ไอ้เอ กับไอ้ครีม นั่งพักแปบหนึ่ง ทางลงเขาเป็นทางคอนกริต วิธีลงเลยไม่ยากมาก สักพักพวกเราได้ยินเสียงรถมอไซร์วิ่งขึ้นมา ไอ้ครีมเดินลงไปดู สิ่งที่เห็นคือ อ.ปกครองขี่มอไซร์ ขึ้นมา มีไอ้โด่งนั่งซ้อนท้ายมาด้วยไอ้ครีมวิ่งหนีขึ้นไปทางบนเขา มันวิ่งมาตะโกนบอกอ.มาไอ้เอรีบลุกแต่ไม่ทันอ.มาถึงไอ้เอพอดีอ.จับมือไอ้เอไว้ ไอ้เอไม่สนสะบัดหลุดกระโดดลงเขามันตรงนั้นเลย ไอ้ครีมวิ่งขึ้นเขาไปหลบซักพักก็ลงข่าวมาแจ้งให้พวกผมทราบ เรานั้งรอไอ้เออยู่สักพักหนึ่ง ไอ้ชาติก็โทรมา เห่ยๆ ไอ้เออยู่โรงบาลไปหาหมออยู่พวกผมจึงโดดตามออกไปโดนใช้ช่องทางอื่น ไปเจอได้เอ เลือดอาบขาอยู่โรงบาล เหอๆๆ...

สงครามโลกครั้งที่สอง (World War II)

อยากจะพูดถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อน เพราะ เป็นสงครามที่กินอาณาเขต ครอบคลุม เกือบทั้งโลกจริงๆ


ก่อนอื่นเรามาพูดถึงว่า ทำไมถึงไม่มีใครต้าน เยอรมัน ได้ นั่นเป็นเพราะ แสนยานุภาพของกองทัพนาซีเยอรมัน เป็นแสนยานุภาพที่เข้มแข็งที่สุดแสนยานุภาพหนึ่งในโลกขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นกำลังทหารที่มีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำสูง หรือกำลังยานเกราะต่างๆ ที่ได้รับออกแบบ ให้เป็นเครื่องจักรสงครามที่ทรงประสิทธิภาพ !!


เริ่มด้วย

แสนยานุภาพที่ทรง พลัง ของ นาซี เยอรมัน

กองทัพบก
หน่วยยานเกราะ

รถถัง Panzer ทุกรุ่น
สมรรถนะ
น้ำหนักรถ 44.8 ตัน
ความเร็ว 28 ไมล์ต่อ ช.ม. หรือ 45 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง
ระยะปฏิบัติการ 110 ไมล์ หรือ 176 กิโลเมตร
ปืนประจำรถ 75 มิลลิเมตร แบบ KWK 42L/70 และปืนกล 7.92 มิลลิเมตร 2 กระบอกพลประจำรถ 5 นาย


เป็นรถถังเกราะหนักที่ดีที่สุดในยุคสมัยนั้น คงยากที่จะมีอะไรต้นทาน รถถัง Panzer ได้ เกราะที่หนา และ อาวุธที่ทรงพลัง (ท่าน สามารถทดลองได้ ใน Hero of Company) มันเป่าทุกอย่างกระจุยได้ในพริบตา


รถถัง TIGER

สมรรถนะ
น้ำหนัก 68.6 ตัน
ความเร็ว 24 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 38 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระยะปฏิบัติการ 62 ไมล์ หรือ 99 กิโลเมตร
ปืนประจำรถ 88 มิลลิเมตร และปืนกล 7.92 มิลลิเมตร สองกระบอกค
วามหนาของเกราะสูงสุด 110 มิลลิเมตร
พลประจำรถ 5 นาย
อีกขั้น ของรถถังเกราะหนัก มันเป็นรถถังที่แกร่งกว่า Panzer ต้องใช้คน บังคับการ ถึง 5 นาย(ในความคิดผมมันคือรถถังที่ดีที่สุด เรียกว่าขั้นเทพเลยก็ได้ ^^) รถถัง TIGER ได้สร้างตำนานการต่อสู้ทางรถถังให้กองทัพอังกฤษได้ประจักษ์ ปืนใหญ่ประจำรถขนาด 88 มิลลิเมตร และเกราะของรถที่หนาถึง 110 มิลลิเมตร ทำให้รถถังของฝ่ายสัมพันธมิตร ไม่สามารถทำอะไรรถถัง TIGER ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรบในทะเลทรายแอฟริกา ในปี 1943 จิ้งจอกทะเลทราย นายพลเออร์วิน รอมเมล ของเยอรมันได้ใช้รถถัง TIGER ที่มีจำนวนเพียงน้อยนิดเข้าต่อสู้กับฝ่ายอังกฤษ แต่เนื่องโดยค่าใช้จ่ายที่แพง เยรมัน จึง ผลิต tiger ออกมาได้เพียง 1,350 คัน


ปืนใหญ่ต่อสู้ 88 มม.
สมรรถนะ
สามารถยิงเป้าหมายทางพื้นดินได้ไกลถึงกว่า 10 กิโลเมตร
เป้าหมายทางอากาศ ได้ 14,680 เมตร หรือกว่า 14 กิโลเมตร
มีความยาว 25 ฟุต
อัตราการยิงเฉลี่ย 8 นัด ต่อนาที
ใช้พลประจำปืน 6 คน

ปืนใหญ่ที่ลือชื่อมากที่สุดของเยอรมัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง คือ ปืนใหญ่ขนาด 88 มม. ปืนใหญ่นี้มีอานุภาพรุนแรงมาก สามารถทำลายยานเกราะแทบทุกชนิดได้ นอกจากนี้ยังเป็นปืนที่มีความแม่นยำสูง สามารถยิงเป้าหมายทางพื้นดินได้ไกลถึงกว่า 10 กิโลเมตร คือประมาณ 10,600 เมตร และเป้าหมายทางอากาศ ได้ 14,680 เมตร หรือกว่า 14 กิโลเมตร (ถ่านเล่น นาซี ใน Hero of Company อัพ ป้องกัน ท่านก็จะเห็นว่ามัน มีอานุภาพ ขนาดไหน)


กองทัพเรือ(Kriegsmarine)

เรือประจัญบาน บิสมาร์ค (Bismarch Class - BattleShip )
สมรรถนะ
ระวางขับน้ำ 50153 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 15 นิ้ว 8 กระบอก
เป็นเรือประจัญบานที่โด่งดังและหน้ากลัวที่สุดในสงครามโลกครั้งที่2 ด้วยการสำแดงพลัง จมเรือลาดตะเวณประจัญบาน "ฮู้ด" ของอังกฤษ ด้วยการยิงเพียงไม่กี่ครั้ง เรือ ฮู้ด ของอังกฤษก็ ถูก จมลงใต้ทะเล ในยุทธนาวีที่ช่องแคบเดนมาร์ก หลังเหตุการณ์นี้ อังกฤษจัดสินใจออกตามล่าบิสมาร์ค ทั้งทางเรือ และทางอากาศ แล้วก็สามารถจม เรือบิสมาร์ค ได้ในที่สุด (อย่างเทพ)



กองทัพอากาศ(Luftwaffe)

เครื่องบินขับไล่แมสเซอร์สมิท บี เอฟ 109(Messerschmitt Bf 109)
สมรรถนะ
เครื่องยนต์ขนาด 1,175 แรงม้า
ทำความเร็วได้สูงสุด 560 กม. ต่อ ชม. ที่ระดับความสูง 4,440 เมตร
อัตราการไต่ 1,000 เมตรต่อนาที
มีระยะทำการ 650 กม.
ติดอาวุธหลักคือ ปืนใหญ่อากาศขนาด 20 มม. สองกระบอกที่ปีก แต่ละกระบอกมีกระสุน 60 นัด
นอกจากนี้ยังมีปืนกลขนาด 7.92 มม. อีกสองกระบอกที่จมูกเครื่องบินเหนือเครื่องยนต์ พร้อมกระสุนกระบอกละ 1,000 นัด
สุดยอดเครื่องบินขับไล่ ของเยอรมัน เป็นเครื่องบินขับไล่หนึ่งเครื่องยนต์ ขึ้นบินครั้งแรกเมื่อปี 1935 และเมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง เปิดฉากขึ้น มันได้กลายเป็นเครื่องบินขับไล่หลักของกองทัพอากาศเยอรมัน และอาจกล่าวได้ว่า เครื่องบินรุ่นนี้ เป็นเครื่องบินรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง แม้ว่าจะติดอาวุธด้อยกว่าเครื่องบินของพันธมิตร เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องบินสปิตไฟร์ของอังกฤษ ( ถ้า เครื่องบินรุ่นนี้สามารถอยู่ บนน่านฟ้า อังกฤษ ได้นานๆ อังกฤษคงตกเป็น ของเยอรมันไปแล้ว)


เครื่องบินทิ้งระเบิด Ju-88
นี่เป็นเครื่องบินที่เรียกได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังของกองทัพอากาศเยอรมันเลยทีเดียว เพราะมันเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใช้งานได้มากมาย ทั้งทิ้งระเบิด ตรวจการณ์ ขับไล่ทั้งกลางวันและกลางคืน โจมตีภาคพื้นดิน ลำเลียงพล ลาดตระเวณและเป็นเครื่องบินทิ้งตอร์ปิโดด้วย เมื่อรสงครามระเบิดขึ้น เจยู88 ได้เป็นเครื่องบินหลักในการเข้าโจมตีอังกฤษ โดยในวันที่16ตุลาคมปี1939 ได้โจมตีฐานทัพเรืออังกฤษที่ โรซิธ สร้างความเสียหายให้กับเรือ3ลำ และต่อมายังได้โจมตีฐานทัพเรือที่สปาการ์ โฟลว์ อีกด้วย ในการบุกฝรั่งเศสและประเทศต่ำ เจยู88 ได้เข้าร่วมการรบอีกเช่นกัน ในการรบเหนือเกาะอังกฤษ เจยู88 เป็นหนึ่งในเครื่องบินทิ้งระเบิดที่เข้าโจมตีอังกฤษและสามารถทำลายเมืองในอังกฤษได้มากมาย แต่ อัตราการสูญเสียก็มากเช่นเดียวกันเพราะขาดเครื่องบินขับไล่คุ้มกัน เจยู88 ใช้งานได้หลากหลาย เมื่อแนวรบเยอรมันชยายยาวออกไปและการโจมตีทางอากาศต่อเยอรมันรุนแรงขึ้น เครื่องบินรุ่นนี้ก็ได้ถูกปรับ ปรุงใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งขับไล่กลางคืน โจมตีภาคพื้นดิน และรบรับใช้กองทัพเยอรมันจนสิ้นสุดสงคราม


แสนยานุภาพที่ทรง จักรวรรดิญี่ปุ่น

กองทัพเรือ

เรือประจัญบานยามาโต้ (yamato)
สมรรถนะ
ระวางขับน้ำ 72800 ตัน อาวุธปืนหลักขนาดปากลำกล้อง 460 มิลลิเมตร (18.นิ้ว) 9 กระบอก
กำลังขับเคลื่อน 150,000 shp (110 MW)
ความเร็ว 27 นอตส์ (50 ก.ม./ช.ม.)
รัศมีทำการ 11,500 ก.ม. at 16 น๊อตส์ (30 ก.ม./ชม.)
กำลังพลประจำการ:2,750 นาย

เรือประจัญบานที่ใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น และเรือลำนี้มีปืนใหญ่ขนาดปากลำกล้อง 460 มิลลิเมตร (18.นิ้ว) ซึ่งเป็นปืนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งบนเรือประจัญบาน เรือรบลำนี้มีความหมายอันยิ่งใหญ่สำหรับจักรวรรดิญี่ปุ่นในฐานะสัญลักษณ์ด้านนาวิกานุภาพของชาติ (คำว่า "ยามาโตะ" บางครั้งก็หมายถึงประเทศญี่ปุ่น) และถูกจมโดยเรือบรรทุกเครื่องบินสัญชาติอเมริกันในช่วงวันท้ายๆ ของสงครามโลกครั้งที่2 ในปฏิบัติการอัตวินิบาตกรรมเท็นกุ ซึ่งการจมของเรือรบยามาโตะ บางครั้งถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นด้วยที่สุด (ท่านสามารถเห็น ความน่ากลัวของมันได้ หากท่านเล่นเกม online navyfield มันสามารถจมเรือเราได้ในพริบตา เท่ด้วยใหญ่มากเทียบกับเรืออื่นๆ)


กองทัพอากาศ

เครื่องซีโร่ misubishi A6M
สมรรถนะ
เครื่องซีโร่ misubishi A6M พระเอกของ สมรภูมิเพิร์ลฮาร์เบอร์ มีขนาดเล็ก ทำให้มีความคล่องตัวทางการบินสูงมาก ปืน7.7มม.2 กระบอกและปืน20 มม. 2กระบอก(กระบอกละ100นัด) ข้อเสียของ ซีโร่คือขนาดที่เล็ก ทำให้ไม่มีน้ำหนักเพียงพอสำหรับติดตั้งเกราะสำหรับถังเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์ทำให้ง่ายแก่การทำลายหากโดยยิงเพียงไม่กี่นัด





แสนยานุภาพ ของ สหราชอาณาจักร(UK)

กองทัพเรือ
เรือลาดตะเวณประจัญบาน ฮู้ด(Hood Class - Battle Cruiser)

สมรรถนะ
ระวางขับน้ำ 42500 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 15 นิ้ว 8 กระบอก
เรือที่เป็นที่ความภาคภูมิใจของกองทัพเรืออังกฤษมันสร้างความกลัวให้แก่ข้าศึกในปี 1930-1940 แต่พอสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดขึ้นมันได้ลง สู่สนามรบครั้งแรกกับเรือ BISMARCK ของนาซีจากการยิงจากBISMARCK เพียง 5 ตับก็ทำให้เรือ HOOD จมลงในเวลาประมาณ 8 นาที
(พระเอก ww1 แต่ ww2 กับจมลงอย่างง่ายดาย)


QUEEN ELIZABETH CLASS - BATTLESHIP
สมรรถนะ
ระวางขับน้ำ 36450 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 15 นิ้ว 8 กระบอก
เรือที่ฝ่ายอังกฤษสร้างขึ้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 มันมีขนาดใหญ่มากและทำให้ข้าศึกไม่กล้าออกมาสู้ด้วยและได้ปรับปรุงและใช้ ในสงครามโลกครั้งที่2